วิชัย วชิรพงศ์
"สมัยที่ยังเล่นหุ้นไม่เก่ง วิธีที่ผมใช้..ผมจะลอกข้อสอบคนเก่ง แต่ระหว่างที่เราลอกข้อสอบเขา เราก็ต้องพัฒนาตัวเองตามให้ทัน" ระหว่างการฝึกฝนตนเองของ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ ห้องเรียนแห่งประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา ก็คือ การเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดจาก "คนใกล้ตัว" เคล็ดลับที่วิชัยใช้เอาตัวรอด ในสมัยที่ยังเป็นมือใหม่ ไม่ต่างอะไรกับการ "เข้าถ้ำเสือ" ขโมยความรู้จากคนที่เป็น "มืออาชีพ" วิชัยบอกว่า ตอนที่ยังเล่นหุ้นไม่เก่ง ยังอ่านทิศทางหุ้นไม่ออก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะใช้วิธี "ลอกข้อสอบ" จากคนที่เก่งกว่าเรา ความจริงที่ใครๆ ก็รู้ นักลงทุนรายใหญ่ มักจะ "จมูกไว" มีช่องทางในการรับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วกว่ารายย่อย "ช่วงที่เรายังเรียนหนังสือไม่เก่ง ผมจะใช้วิธีลอกข้อสอบ คิดถึงสมัยเรียนหนังสืออยากสอบให้ผ่านก็ต้องแอบมองข้อสอบคนอื่น แต่คุณอย่าไปลอกข้อสอบคนที่เรียนไม่เก่ง เราต้องลอกข้อสอบจากคนที่เก่งกว่า" เขาแนะนำ วิชัยถ่ายทอดประสบการณ์ต่อว่า เมื่อเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นใหม่ๆ นักเล่นหุ้นทุกคนมักจะคิดเข้าข้างตัวเองว่า "เราต้องได้กำไร" ไม่มีใครคิดหรอกว่าเราจะเล่นหุ้นขาดทุน แล้วส่วนใหญ่ยังเพ้อฝันว่าจะร่ำรวยในเวลาสั้นๆ วิธีคิดจะตรงข้ามกับนักเล่นหุ้นมืออาชีพ เขาจะยึดอยู่บนพื้นฐานของตลาดหุ้น ณ ขณะนั้น เสี่ยยักษ์กล่าวว่า สมัยก่อนที่ยังเล่นหุ้นไม่เก่ง วิธีที่ใช้ ผมจะลอกข้อสอบคนเก่ง แต่ระหว่างที่เราลอกข้อสอบเขา เราก็ต้องพัฒนาตัวเองตามให้ทัน
...สมัยก่อนจะนับถือ “เฮียชัยโรจน์” มาก แกเป็นนักลงทุนธรรมดาๆ ที่เล่นหุ้นจนร่ำรวย แสดงว่าเขาเก่งจริง เท่าที่สังเกตนิสัย เฮียชัยโรจน์ จะต่างจากนักเล่นหุ้นคนอื่น พอตลาดหุ้นปิด นักเล่นหุ้นคนอื่นจะชวนกันไปกินเหล้าสังสรรค์เฮฮา แต่เฮียชัยโรจน์จะนั่งอ่านงบการเงิน..ศึกษาข้อมูลหุ้นตลอด สมัยที่พอร์ตยังเล็กๆ วิชัยบอกว่า จะพยายามเข้าไปตีสนิทกับนักลงทุนกลุ่มนี้ เวลาจะไปรับประทานข้าวเที่ยง แถวๆ ริมคลองด้านหลังอาคารสินธร (ตลาดหลักทรัพย์เก่า) ก็จะรีบออกไปจองโต๊ะอาหารให้กลุ่มนี้นั่ง แล้วเรียกให้ เฮียชัยโรจน์ มานั่งด้วยกัน "ผมพยายามจะเอาใจเขาวิ่งไปซื้อโอเลี้ยงให้ อยากเป็นพวกเขา แต่เวลาจะเข้าไปคุยกับคนกลุ่มนี้ เขาก็กลัวว่าเราจะไปเกาะเขาจะตาย" สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เฮียชัยโรจน์ คนนี้มีห้องวีไอพีส่วนตัว ต้องรายใหญ่จริงๆ ถึงจะมีห้องเล่นหุ้นส่วนตัว ซึ่งวิชัยได้ยินมาว่าแกรวยหุ้นเป็นพันล้าน แต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเขาลึกวิชัยยกย่องว่า เฮียชัยโรจน์นี่แหละ "เสือจริง" ช่วงที่เขาป่วยเป็นโรคมะเร็ง นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนหน้าจะเสียชีวิตไม่นาน ด้วยความเป็น "เสือ" เขาห้ามทุกคนไม่ให้มาเยี่ยม ไม่ต้องไปสงสารเขา "คนอย่างนี้นี่แหละผมนับถือว่า แกเสือจริง..คนอย่างนี้หายาก" ช่วงนั้น วิชัยจะพยายามเก็บความรู้จากเฮียชัยโรจน์ให้ได้มากที่สุด แล้วนำมาคิดต่อว่าเขามีวิธีการมองตลาดหุ้นอย่างไร เขามีเหตุผลอะไร เขาจะเลือกเล่นหุ้นแบบไหน ทำไมถึงซื้อหุ้นตัวนี้ ถึงจะได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แต่นับว่าสำคัญมากสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ "รับประทานข้าวเที่ยงหนึ่งวัน เขาพูดมาหนึ่งคำ ผมก็เก็บเอามาคิดตาม ฟังเขาคุยก็เริ่มรู้ว่านักลงทุนรายใหญ่เขาเล่นหุ้นกันอย่างไร มีเทคนิคอย่างไร ...ช่วงนั้นผมก็ไปเข้าคอร์สเรียนวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิเคิล พยายามหาวิธีพัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ เวลาเขาบอกว่าหุ้นตัวนั้นดี ไม่ใช่จะเชื่ออย่างเดียว ก็รีบไปศึกษาว่าหุ้นตัวนั้นดีจริงอย่างที่เขาพูดมั้ย เราต้องไปทำการบ้านต่อ ซึ่งสมัยนั้นเล่นหุ้นเก็งกำไรกันอย่างเดียว" วิชัยเล่าต่อว่า มียุคหนึ่งที่นักลงทุนบ้าเล่นหุ้นไฟแนนซ์ (บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือ บงล.) บริษัทส่วนใหญ่มีทุนจดทะเบียนน้อย แค่ 200-300 ล้านบาท เฮียชัยโรจน์เขาอ่านงบการเงินเป็น เขาเห็นว่า บงล.เกียรตินาคิน หรือ KK (ในสมัยนั้น) เร่งขยายงานมาก เขาบอกเลยว่า หุ้น KK ยังไงก็ต้องเพิ่มทุน 1 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ เขาอ่านเกมล่วงหน้า เขารู้ก่อน แล้วบอกว่าให้ซื้อหุ้นตัวนี้เก็บไว้เลย "ผมก็ซื้อหุ้น KK เก็บไว้เลย เพิ่มทุน 1 ต่อ 4 ตอนนั้นพาร์ 100 บาท ราคาหุ้นเป็นร้อย หลังจากเพิ่มทุนไปได้ 4-5 เดือน ลูกหุ้น (วอร์แรนท์) 4 ตัว KK-W1 ถึง KK-W4 ขยับมาเท่าหุ้นแม่หมดเลย ตลาดเมื่อก่อนแฟร์มาก การเพิ่มทุนจะเพิ่มที่ราคาพาร์หมด ถ้าหุ้นตัวไหนมีข่าวเพิ่มทุน..หุ้นจะขึ้นแรง" ส่วนข้อเสียของนักลงทุนรายย่อยสมัยก่อน ข้อมูลข่าวสารยังไม่ดี อย่างเหตุการณ์ Black Monday วันจันทร์ 19 ตุลาคม 2530 ภายในวันเดียว ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 508 จุด หรือ 22.6% ตลาดหุ้นตื่นตระหนกไปทั่วโลก หลังจากนั้นหุ้นไทยก็ฝ่อลง..ๆ ตอนนั้นมีโบรกเกอร์เบอร์ 10 บล.ยูไนเต็ดเก่า เขาจะมีเทเล็กซ์ให้ดูได้เฉพาะรายใหญ่ ให้อ่านข่าวดาวโจนส์ว่าวันนี้บวกหรือลบ ช่วงนั้นดัชนีดาวโจนส์จะเป็นตัวชี้นำตลาดหุ้นไทย การเล่นหุ้นหลัง Black Monday ถ้าดาวโจนส์ขึ้น ดัชนี SET จะขึ้นตาม สมัยนั้นยังไม่มีอินเทอร์เน็ต มีแต่เทเล็กซ์ การที่เราเป็นรายย่อยไม่มีทางจะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ก็ต้องใช้วิธีไปแอบถาม...เขาก็ถามว่าคุณเป็นลูกค้ารึเปล่า! เราตอบว่าไม่ใช่ เขาก็ไม่ให้ดู วิชัยบอกว่า ตัวเองถือว่าโชคดีมากที่ออกสตาร์ท เริ่มเล่นหุ้นตอนดัชนีต่ำ ตอนนั้นมันต่ำจนฟลอร์หมดแล้ว ถึงค่อยเข้าไปเล่น ถ้าไปเข้าก่อน Black Monday ก็ตายไปก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้เกิดอย่างทุกวันนี้หรือไม่ "จุดนี้..ผมเชื่อว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา"
Ref : https://www.facebook.com/620334998003916/photos/a.620814361289313.1073741827.620334998003916/708707522499996/?type=1&fref=nf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น